Monday 30 December 2013

พระแม่ธรณีหนึ่งออ 女媧 (เทพนหวี่วา)

วันนี้ผมจะมาเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวของบุคคลในยุคบรรพกาล เป็นตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาตั้งแต่ยุคสร้างโลก
บุคคลท่านนี้ คือ พระแม่ธรณีหนึ่งออ หรือเทพธิดาหนึงวาสี
  พระองค์ถือเป็นหนึ่งในสามกษัตริย์ของยุคโบราณของจีนครับ โดยการจัดอันดับในบันทึกมหาประวัติสาสตร์ของซีแบ้เชง司馬遷 (ซือหม่าเซียน) ราชวงศ์ฮั่ง漢朝 (ฮั่น) พระนามหนึงวาสีที่ผมใช้นี้ ผมใช้ตามวรรณกรรมเรื่อง ห้องสิน 封神演義   ที่ได้รับการแปลในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ ส่วนชื่อของเทพธิดาพระองค์นี้ในภาษาจีนกลางจะออกเสียงว่า เทพนหวี่วา女媧 



ท่านเป็นนางฟ้าในเทพปกรณัมจีนมีปรากฏในวรรณกรรมเรื่อง ไคเภ็ก (开辟演義) หรือบันทึกการสร้างโลก โดยในวรรณกรรมนี้ระบุรายละเอียดพระวรกายของเทพธิดาหนึงวาสีไว้ดั่งนี้ว่า

พระพักตร์ขาว พระทนต์ขาวเหมือนแก้วสี พระโอษฐ์แดง สูงสิบห้าศอกกับอีกหนึ่งคืบ รูปงาม มีสติปัญญา
ความงามของพระองค์เป็นที่ร่ำลือมาก เรียกได้ว่า งามขนาดล่มเมือง ทั้งนี้ในวรรณกรรมเรื่องห้องสินได้ระบุความงามของเทพธิดาหนึงวาสีไว้ตอนหนึ่งว่า

พระเจ้าติวอ๋อง
商紂王ผู้เป็นจักรพรรดิครองเมืองจิวโก๋ แห่งราชวงศ์แห่ 商朝ได้พระราชดำเนินไปสักการะเทพธิดาหนึงวาสีที่ศาลสถิตเทพ ปรากฏพบเห็นเพียงเงาจางๆจากแค่วูบหนึ่งที่ลมพัดให้ม่านที่ปกปิดเผยอออกเท่านั้น
ทำให้พระเจ้าติวอ๋องเห็นรูปลักษณ์ไม้สลักของเทพธิดาที่อยู่ภายใน พระเจ้าติวอ๋องถึงกับหลงรักเทพธิดาหนึงวาสี และได้แต่กลอนเขียนไว้ที่ศาลสักการะไว้ว่า 
“’งามพร้อมทั่วสรรพางค์ จะดูไหนก็งามจำเริญใจจำเริญตา นี่หากว่าเป็นรูปไม้ ถ้าเป็นรูปสตรีงามดังนี้จะรับไปเป็นมเหสีครองเมือง 

เพราะโคลงสี่บาทนี้ ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความวุ่นวายและเป็นการเริ่มต้นของจุดสิ้นสุดของพระราชวงศ์นับแต่นั้น
เทพธิดาพระองค์นี้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างว่า นอกจากมีพระปรีชาสติปัญญาดีสามารถทรงช่วยจักรพรรดิฮกฮีทำนุบำรุงแผ่นดินและจัดธรรมเนียมให้บ้านเมืองมีระเบียบยิ่งขึ้น พระองค์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้สร้างมนุษยชาติ และซ่อมกำแพงสวรรค์ (ท้องฟ้า)ด้วยหิน 5 สี โดยมีตำนานเล่าไว้ว่า 


ครั้งจงกงสีพี่น้องทั้งสองรบกัน ผู้พ่ายแพ้แค้นใจเอาศีรษะกระทบภูเขาภูเขาก็ทำลาย ครั้งกระโดดขึ้นไปด้วยกำลังศีรษะกระแทกฟ้า ฟ้าก็พังไปครั้นตกกลับมายังแผ่นดินแผ่นดินก็ถล่ม พระอาทิตย์พระจันทร์ไม่สามารถส่องแสงได้ ความมืดมนปกคลุมไปทั่วแผ่นดิน เทพธิดาหนึงวาสีเห็นดังนั้นจึงนำเอา ศิลาเหลือง ศิลาแดง ศิลาเขียว ศิลาดำ และศิลาขาว มาเคี่ยวให้ละลายแล้วและไปปิดยารอยแตกฟ้าและดินให้กลับสู่ความเป็นปรกติ พระอาทิตย์และพระจันทร์ก็ส่องสว่างดังเดิม

ทำให้นักประวัติศาสตร์ ซีแบ้เล้ง นับเป็นเทพธิดาหนึงวาสีเป็นประมุขคนที่สองของประเทศจีนในยุคบรรพกาลด้วย ประมุขในครั้งบรรพกาลสามพระองค์ของจีน ได้แก่ เทพเจ้าฮกฮี  伏羲 เทพธิดาหนึงวาสี (女媧)
พระองค์ที่สามได้แก่เจ้าแห่งมนุษย์ซิ้งล้ง   (
神農) 

รวมเรียกยุคนี้ว่า ยุคสามกษัตริย์
三皇 ซึ่งในยุคของเทพเจ้าฮกฮีและเทพธิดาหนึงวาสี เกิดเหตุสำคัญขึ้นนั่นก็คือมหาอุทกภัย น้ำท่วมครั้งใหญ่” 

ในปกรณัมเทพของจีนก็ได้มีบันทึกถึงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่จนเกิดความพินาศไปทั่ว มีมนุษย์สองคนที่รอดจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้แก่ เทพเจ้าฮกฮีและเทพธิดาหนึงวาสี ซึ่งตามตำนานระบุว่าเทพธิดาหนึงวาสีเป็นพระกนิษฐาของเทพเจ้าฮกฮี ทั้งสองพระองค์ได้หนีภัยน้ำท่วมไปบนเทือกเขาสูงที่เรียกกันว่า เทือกเขาคุนลุ้น  และได้รับสาสน์จากสวรรค์ว่าให้ทำการสร้างมนุษย์ขึ้น ทั้งสองพระองค์จึงสร้างมนุษย์ขึ้นมาจากดิน โดยทำการปั้นเป็นหุ่นรูปคน เมื่อรูปปั้นดินได้รับปราณจากฟ้าและดินจึงเกิดมีชีวิตขึ้น ทั้งสองพระองค์จึงถือเป็นเทพบิดรและเทพมารดรของมนุษย์



No comments:

Post a Comment